วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อบรมทรู

วันที่11 มีนาคม 2557 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้จัดกิจกรรมพบปะแลกเปลี่ยนและแนะนำกิจกรรมโครงการ 12th True Visions-BBC world news future journalist Award พร้อมรับฟังบรรยายพิเศษ เรื่องนิเทศศาสตร์ดิจิทัล โดยอาจารย์บรรยงค์ สุวรรณผ่อง ณ ห้องประชุมคณะวิทยาการจัดการ อาคาร3 เวลา 09.00-12.00 น ภายในงานมีการแจกของรางวัลอย่างมากมาย โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยการให้ความสนใจจากนักศึกษานิเทศศาสตร์ทุกชั้นปีอย่างคึกคัก



เตือนสาวอยากสวย ระวังครีมหน้าขาวในท้องตลาดไทย !!!!

เตือนสาวอยากสวย ระวังครีมหน้าขาวในท้องตลาดไทย !!!!
       

หลังสำรวจพบมีสารปรอทปนเปื้อนมากถึง 1 ใน 5 จากการสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ 47 ชนิด และไม่มีเลขที่ใบรับแจ้ง ส่งผลไม่มีรายชื่อผลิตภัณฑ์ในฐานข้อมูลของ อย.
       
       วันที่ 16 ส.ค. 56 นาง จุฑามาศ ทรัพย์ประดิษฐ์ นักวิจัยประจำมูลนิธิบูรณะนิเวศ เปิดเผยผลโครงการศึกษาการปนเปื้อนของสารปรอทในครีมหน้าขาว โดยมูลนิธิบูรณะนิเวศ (มบน.) ร่วมกับนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ว่า จากการวิเคราะห์ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 47 ชนิด พบว่า มีผลิตภัณฑ์ครีมหน้าขาว 10 ชนิด ที่มีสารปรอทปนเปื้อนสูงมาก ค่าสูงสุดที่ตรวจพบ คือ 99,070 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ในขณะที่สารปรอทเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง หรือต้องมีปริมาณเท่ากับ 0 ppm ตามกฎหมายมาตรฐานความปลอดภัยของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และมาตรฐานการผลิตเครื่องสำอางของกลุ่มประเทศอาเซียน
       
       จุฑามาศ กล่าวอีกว่า การสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ยังพบว่า ครีมหน้าขาวที่ปนเปื้อนสารปรอททั้งหมดยังแสดงข้อมูลบนฉลากไม่ครบถ้วนตามประกาศของคณะกรรมการเครื่องสำอาง อย. เรื่องฉลากของเครื่องสำอาง พ.ศ.2554 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การไม่ระบุ “เลขที่ใบรับแจ้ง” ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ใดที่ไม่ระบุข้อมูลดังกล่าว ผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะไม่ปรากกฏรายการอยู่ในฐานข้อมูลการติดตามตรวจสอบของ อย.ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนสารปรอทเหล่านี้ก็จะไม่ปรากฏชื่อผลิตภัณฑ์ในฐานข้อมูลของ อย.ทำให้ยากแก่การติดตามตรวจสอบแหล่งผลิตหากผู้บริโภคพบปัญหาการใช้เครื่องสำอางชนิดนี้



วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

ข่าวอัพเดตเกี่ยวกับองค์กรของเรา(28/1/57)

อย. ออกมาเตือนถึงครีมหน้าขาวที่ใช้กันอยู่ !!!!

          
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 57 ที่ผ่านมา ทางองค์กรอาหารและยา(อ.ย.) ได้ออกมาเตือนสาวๆกันว่า .. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ บริโภคในเอเชีย รวมถึงประเทศไทย บริษัทเครื่องสำอางจึงได้ทำการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของ ผู้บริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครีมที่ทำให้ผิวหน้าขาวใส ในปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์เหล่านี้วางจำหน่ายอยู่มากมายในท้องตลาด ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีส่วนประกอบของสารสำคัญที่ทำให้ผิวขาวแตกต่างกันไป

           ไฮโดรควิโนน เป็นสารเคมีซึ่งเป็นที่นิยมในการนำมาเตรียมครีมที่ทำให้หน้าขาวในอดีต เนื่องจากเห็นผลได้เร็วไฮโดรควิโนนออกฤทธิ์โดยการการยับยั้งกระบวนการสร้าง เม็ดสีของผิวหนัง หรือที่เรียกว่า เมลานิน จึงมีผลทำให้ผิวขาวขึ้นได้ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนนั้นควรใช้กับผู้ที่มีปัญหาฝ้า หรือรอยด่างดำจากสิวที่รุนแรงและจะต้องมีเปอร์เซ็นต์ของตัวยาที่แน่นอนระบุ อยู่ นอกจากนี้ควรใช้ในระยะเวลาที่จำกัด ไม่ควรใช้นานเกินไป และไม่ควรหยุดใช้ยาทันทีเนื่องจากอาจจะทำให้ผิวคล้ำลงกว่าเดิมได้จากการที่ ผิวหนังเร่งผลิตเซลล์เม็ดสีมาทดแทน นอกจากนี้ไฮโดรควิโนนเป็นสารที่ทำปฏิกิริยากับแสงแดด ซึ่งหากทายาที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนแล้วไม่ทาครีมกันแดด ฝ้าจะดำกว่าเดิมได้

ในปัจจุบันนี้ไฮโดรควิโนนได้ถูกสั่งห้ามใส่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่วาง จำหน่ายทั่วไป อย่างไรก็ตามในคลินิกที่จ่ายยารักษาฝ้าโดยแพทย์ ยังสามารถจ่ายให้ผู้ป่วยได้ตามความเหมาะสมตามดุลยพินิจของแพทย์ การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ เช่น การหาซื้อครีมทาฝ้ามาใช้เอง อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะผสมไฮโดรควิโนนในปริมาณสูงมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ 3-5%[สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้ผสมสารไฮโดรควิโนนในการรักษาฝ้าได้ไม่เกิน 2%]ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ได้ เริ่มจาก อาการระคายเคืองต่อผิว เกิดจุดด่างขาวที่หน้า ผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวร รักษาไม่หาย ทำให้เกิดโรคผิวหนังขึ้น เกิดตุ่มนูนสีดำบริเวณโหนกแก้มและสันจมูก ซึ่งเป็นบริเวณที่ทายาบ่อยๆหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานมากกว่า 6 เดือน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อภายในผิวหนังทำให้เกิดเป็นฝ้าถาวรสีน้ำเงินอมดำได้ ซึ่งอาจเกิดจากการที่ผิวหนังมีการปรับตัวให้สร้างเม็ดสีมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน





วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

เตือนภัยสาวๆครีมหน้าขาวใส่สารปรอท'อย.'สั่งห้ามยังวางขาย


เตือนภัยสาวๆครีมหน้าขาวใส่สารปรอท'อย.'สั่งห้ามยังวางขาย















นางสาวจุฑามาศ ทรัพย์ประดิษฐ์ นักวิจัยประจำมูลนิธิบูรณะนิเวศ เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 47 ชนิด พบว่ามีผลิต ภัณฑ์ครีมหน้าขาว 10 ชนิดที่มีสารปรอทปนเปื้อนสูงมาก ค่าสูงสุดที่ตรวจพบคือ 99,070 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ในขณะที่สารปรอทเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางหรือต้องมีปริมาณเท่ากับ 0 ppm ตามกฎหมายมาตรฐานความปลอดภัยของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และมาตรฐานการผลิตเครื่องสำอางของกลุ่มประเทศอาเซียน
"เลขที่ใบรับแจ้ง" การสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยังพบว่า ครีมหน้าขาวที่ปนเปื้อนสารปรอททั้งหมดยังแสดงข้อมูลบนฉลากไม่ครบถ้วนตามประกาศของคณะกรรมการเครื่องสำอางภายใต้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรื่องฉลากของเครื่องสำอางพ.ศ.2554 โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การไม่ระบุ "เลขที่ใบรับแจ้ง" ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ใดที่ไม่ระบุข้อมูลดังกล่าว ผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะไม่ปรากฏรายการอยู่ในฐานข้อมูลการติดตามตรวจสอบของ อย. และไม่ปรากฏในข้อมูลของ อย. ทำให้ยากแก่การติดตามตรวจสอบแหล่งผลิต

สารปรอทเป็นส่วนประกอบที่นิยมลักลอบใช้ในครีมหน้าขาว เนื่องจากมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีในผิวหนัง ทำให้สีผิวจางลง มีพิษ เพราะเป็นโลหะหนัก หากสะสมในร่างกายและได้รับนานๆ แม้ในปริมาณน้อย ก็จะซึมเข้ากระแสเลือด ทำลายตับ ไต และทางเดินปัสสาวะ รวมถึงอาจทำให้เกิดโรคโลหิตจาง การได้รับสารปรอทในปริมาณสูงจะทำลายระบบประสาทและการทำงานของสมอง สารปรอทยังสามารถถ่ายทอดจากมารดาที่กำลังตั้งครรภ์ไปยังลูกในครรภ์ได้ด้วย สธ.จึงได้ประกาศให้สารปรอทเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางครั้งแรกเมื่อปี2532 และมีการปรับปรุงกฎหมายล่าสุดเมื่อพ.ศ.2551

ครีมหน้าขาวที่ตรวจพบสารปรอทในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ อย.เคยตรวจพบสารปรอทมาแล้ว และ อย.เคยประกาศให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเครื่องสำอางที่ทำผิดกฎหมายและมีอันตรายแต่จากการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ก็ยังพบว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำผิดกฎหมายเหล่านี้ยังคงวางจำหน่ายในท้องตลาดต่อไป ซึ่งได้แก่ ครีม FC น้ำนมข้าว (พบสารปรอทสูง 99,070 ppm) ไวท์โรส ครีมรกแกะ (51,600 ppm) เหมยหยง ครีมสมุนไพรสาหร่าย (41,770 ppm) เบสท์ บิวตี้ (34,430 ppm) เพิร์ล ครีมหน้าเด้ง (13,800 ppm) มาดาม ออร์แกนิค ไข่มุก (3,435 ppm) และเบบี้เฟซ ครีมหน้าขาว (81.14 ppm) นอกจากนี้ การสุ่มตัวอย่างยังพบครีมหน้าขาวปนเปื้อนสารปรอทอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ปรากฏในรายการเครื่องสำอางอันตรายของ อย. ได้แก่ ครีมยี่ห้อไบโอคอลลาเจน (47,960 ppm) เนเจอร์ (7,300 ppm) และครีมบำรุงมะหาด (63.53 ppm)

ส่วนนางสาวทัศนีย์ แน่นอุดร หัวหน้ากองบรรณาธิการ นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าวเน้นเรื่องเลขที่จดแจ้งของเครื่องสำอางพร้อมย้ำว่า เครื่องสำอางไม่ต้องมีอย. ที่ต้องมีคือเลขที่จดแจ้ง ซึ่งประชาชนควรทำความเข้าใจกันใหม่ว่า แม้จะมีเลข อย.ก็ไม่ได้แปลว่าปลอดภัย เพราะ อย.แค่รับแจ้ง โดยดูจากเอกสาร ไม่ได้มีการตรวจวิเคราะห์ แต่การมีเลขเป็นการแสดงเจตนา บอกให้ อย.ได้รู้แหล่งผลิตและตัวตนของผู้ผลิตเท่านั้น

ขั้นตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กร (ร้าน ROMMY SHOP)

    ขั้นตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์กร (ร้าน ROMMY SHOP)

1.การสำรวจเบื้องต้น

ประวัติความเป็นมาของร้าน ROMMY SHOP

เป็นร้านขายครีม เครื่องสำอาง เกี่ยวกับความสวยความงาม โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้หญิง อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป และคนที่รักความสวยความงามทั้งหมด องค์กรของเราไม่ได้ขึ้นตรงต่อบริษัทใดโดยตรงแต่เป็นเพียงองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเองเพื่อนพสินค้าที่เป็นที่นิยมทางสื่อต่างๆและมี อ.. กำกับ ถูกต้องตามกฏหมาย มาจำหน่ายเท่านั้น

กลุ่มเป้าหมายของร้าน

::  นักศึกษา วัยทำงาน หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจเครื่องบำรุงผิวหรือเสริมความงาม





2.การวิเคราะห์ความต้องการขององค์กร 
ทางร้านได้สร้างแฟนเพจ(ในเฟซบุ๊ค)  / สร้าง Blog / สร้าง Twitter
- เพื่อบอกถึงโปรโมชั่นของร้าน
- เพื่อแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับร้านให้ลูกค้ารับทราบอย่างรวดเร็ว
- เพื่อตรวจเช็คกระแสตอบรับจากลูกค้าที่เข้ามาดูเพจ
- เพื่อใช้ตอบคำถาม พูดคุย แลกเปลี่ยนกับลูกค้าที่สงสัยปัญหาเกี่ยวกับครีมต่างๆได้สะดวกมากยิ่งขึ้น  ทางร้านของเราได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่า ผ่าน Blogger , Facebook , Fanpage และผลตอบรับเป็นที่น่ายินดีเพราะ มียอดสั่งจองสินค้าเพิ่มขึ้นเลื่อยๆ













3.การออกแบบระบบ
            การออกแบบแฟนเพจ บล็อก หรือแม้กระทั่งทวิตเตอร์ ทางองค์กรจะเน้นสร้างในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย และยังสามารถดูรายละเอียดต่างๆของสินค้าภายในร้านได้อย่างสะดวกสบาย เน้นสื่อที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น Facebook,Twitter เป็นต้น 
การออกแบบเพจเน้นสไตส์เรียบๆ เพราะตัวสินค้าที่เรานำเสนอมีสีสันโดดเด่นสะส่วนใหญ่ พอรูปแบบเพจดูเรียบง่ายสินค้าก็ยิ่งดูโดดเด่นและน่าดึงดูด ตัวทวิตเน้นอัพเดทข่าวสาร ต่อเนื่อง เพื่อเป็นการ
โปรโมทร้านเลื่อยๆ










4. การจัดหาอุปกรณ์ของระบบ

ส่วนใหญ่ทางองค์กรจะใช้คอมพิวเตอร์เพื่อโพสต์แจ้งข่าวสารต่างๆ รวมไปถึงโปรโมชั่นของทางร้านลงใน แฟนเพจ ทวิตเตอร์ หรือบางครั้งเจอข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับครีมปลอมก็ยังสามารถแชร์ข่าวแจ้งเตือนลูกค้าผ่านอินเตอร์เน็ททางโทรศัพท์มือถืออีกด้วย
เมื่ออัพเดทข่าวสารก็จะมีการแชร์ลิ้งค์ และ อัพเดทบล๊อค,เพจ,ทวิตให้เหมาะสม
เพื่อให้ลูกค้านั้นได้รับข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดียได้ครบทุกช่องทาง


5. การติดตั้งระบบและการบำรุงรักษาระบบ
      การเข้าถึงเพจ บล๊อก หรือทวิตเตอร์ของทางองค์กรสามารถทำได้ง่ายมากเนื่องจากทางองค์กรได้มีการแชร์ข้อมูลข่าวสารต่างๆผ่านทางเฟซบุ๊คส่วนตัวของทางผู้ดูแลอยู่เป็นประจำ ทำให้มีหลายคนแชร์ต่อไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ค่อนข้างเป็นที่รู้จักพอสมควร  ทางองค์กรของเรามีผู้ดูแล คอยตอบคำถามของลูกค้า คอยแชร์ข่าวสารอู่เสมอ จึงทำให้กระแสตอบรับค่อนข้างดีพอสมควร ทำให้องค์กรเป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เพจนั้นไม่น่าสนใจ
การอัพเดททางบล๊อคและแชร์ลิ้งไปตาม เพจ หรือ ทวิตเตอร์ เนื่องจากผู้คนในยุคปัจจุบันเสพสื่อทาง
เทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก การโปรโมทโดยการอัพเดทข้อมูลนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี และ เผยแพร่ต่อ
สาธารณะชนในวงกว้าง

วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

วีดีโอแนะนำ ร้าน


อย.เตือนภัย ครีมทาหน้า

อย.เตือนภัย ครีมทาหน้าใส ต้องระวัง !!!!!!

     สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ประกาศรายชื่อเครื่องสำอางที่มีสารอันตรายห้ามใช้ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด มีการตรวจพบเครื่องสำอางมีสารอันตรายเพิ่มเติมอีก 40 รายชื่อ ประกอบด้วย

1. EED'S ครีมแก้ฝ้า จุดด่างดำ ทาก่อนนอน ครั้งที่ 1 ไม่ระบุสารประกอบของปรอท
2. EED'S ครีมไข่มุก หน้าสวย ทาก่อนนอน ครั้งที่ 2 ไม่ระบุไฮโดรควิโนน
3. MADAME Organic โปรตีนสาหร่าย (บรรจุกล่องกระดาษสีเงิน) ไม่ระบุสารประกอบของปรอท
4. MADAME Organic โปรตีนสาหร่าย (บรรจุกล่อง กระดาษสีทอง) ไม่ระบุสารประกอบของปรอท
5. MADAME ORGANIG เซรั่มชาเขียว ไม่ระบุกรดเรทิโนอิก
6. ชาโต้ ชาบู by มิสเดย์(กล่องสีชมพู) Revital Pure White Lotion โลชั่นป้องกันแสงแดด-ฝ้า ผลิตโดย บจก.เนเจอร์เฮิร์บ
7. ชาโต้ ชาบู by มิสเดย์(กล่องสีชมพู) Revital Pure White Cream ครีมลดเลือนริ้วรอยจุดด่างดำ-ฝ้า ผลิตโดย บจก.เนเจอร์เฮิร์บ
8. ชาโต้ ชาบู by มิสเดย์ (กล่องสีน้ำเงิน) Revital Pure White Lotionโลชั่นป้องกันแสงแดด-ฝ้า
9. ครีมบัวหิมะ หลิงหลิง ครีมทาสิวฝ้า (NIGHT CREAM)
10. พอลลา ครีมทาฝ้า สูตรสำหรับตอนกลางคืน

11. ไวท์โรส นาโนโซมส์
12. ไวท์โรส ครีมรกแกะ หน้าขาวใส ลดจุดด่างดำ
13. ML ครีมสมุนไพรสด ตราดอก ทานตะวัน
14. Baby Charm ครีมสมุนไพรว่านหางจระเข้
15. KARME ครีมกลางคืน
16. ชามอง ครีมสมุนไพร (ครีมสมุนไพรชะเอมเทศ)
17. U Nice ไวท์เทนนิ่ง ครีมสิว-ฝ้า ไข่ไก่ผสมน้ำผึ้ง
18. สมุนไพรฐิติมา ขมิ้นสด
19. U Nice ครีมฝ้า น้ำนมข้าวผสมโยเกิร์ต
20. สมุนไพรฐิติมา ครีมลดจุดด่างดำ กระ(ฝาปิดด้านในสีขาวขุ่น)

21. คลินิกแคร์ ลดรอยดำ (ครีมสีเหลือง) พบกรดเรทิโนอิก
22. คลินิกแคร์ ครีมประทินผิว สูตรขมิ้น
23. คลินิกแคร์ ครีมประทินผิว ลดรอยดำ
24. สมุนไพรฐิติมา ครีมลดจุดด่างดำ กระ (ฝาปิดด้านในสีขาว)
25. คลินิกแคร์ ลดรอยดำ (ครีมสีเขียวเหลือง)
26. ครีมสมุนไพรว่านนางสาว ไม่ระบุ
27. OEISHI GREEN TEA CREAM & HONEI MEAL
28. ครีมชาเขียว DR.JAPAN
29. พี-แคร์ครีม สมุนไพรขิง
30. Dr.SUCHART ครีมรักษาผิวขาว ลบรอยฝ้า ผลิตโดยแพทย์สุชาติคลีนิค

31. P.S Fruit Cream ทรีตเม้นท์บำรุงผิวขาว-ใส ครีม P.S.
32. NEW FACE Whitening Night Cream
33. ทรีย์เดย์ เนเชอรัล โลชั่นป้องกันแสงแดด-ฝ้า
34. มิสเดย์ ครีมแก้ฝ้า
35. อองรี ครีมรกแกะ ลดริ้วรอย-ฝ้า
36. โลชั่นวินเซิร์ฟ ลดฝ้า-กันแดด (ห่อด้วยพลาสติกใสไม่มีสี)
37. ครีมฝ้า เมลาแคร์
38. โลชั่นกันแดด-กันฝ้า เมลาแคร์
39. มิสย์ เดย์ ครีมแก้ฝ้า
40. ไวท์โรส ครีมรกแกะ หน้าขาวใส ลดจุดด่างดำ

ภญ.วีรวรรณกล่าวว่า อย.ขอย้ำว่า อย่าซื้อผลิตภัณฑ์ ทั้ง 40 รายการนี้มาใช้อย่างเด็ดขาด เพราะอาจได้รับอันตรายจากสารห้ามใช้ เช่น ไฮโดรควิโนน จะทำให้ผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวรรักษาไม่หาย กรดเรทิโนอิก ทำให้แสบร้อนรุนแรงผิวหน้าลอก และเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ในขณะที่สารประกอบของปรอทมีอันตรายร้ายแรงมาก ทำให้ผิวหน้าดำ ผิวบางลงและเมื่อสารปรอทสะสมในร่างกาย ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบได้อีกด้วย